เหรียญไทยนั้นผลิตออกมาโดยสำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง โดยสามารถผลิตออกใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนโดยไม่ต้องมีสิ่งใดมาค้ำประกัน เพราะโลหะที่ใช้ผลิตเหรียญกปาษณ์นั้นมีค่าในตัวเองอยู่แล้ว ส่วนธนบัตรนั้นผลิตและควบคุมการหมุนเวียนโดยธนาคารแห่งประเทศไทย การผลิตธนบัตรนำออกใช้จะมีหลักเกณฑ์วิธีที่เหมาะสมเพื่อให้เศรษฐกิจของชาติมีเสถียรภาพ
ระบบสกุลเงินไทยในปัจจุบัน ซึ่งเงิน หนึ่งบาท มีค่าเท่ากับ 100 สตางค์ เริ่มใช้ปี พ.ศ. 2440 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อนหน้านั้นเงินตราไทยใช้ระบบดังนี้
หน่วยเงิน | มูลค่า | |
---|---|---|
หาบ | 80 ชั่ง หรือ 6,400 บาท | |
ชั่ง | 20 ตำลึง หรือ 80 บาท | |
ตำลึง | 4 บาท | |
บาท | 1 บาท | |
มายน หรือ มะยง | บาท | |
สลึง | บาท | |
เฟื้อง | บาท | |
ซีก หรือ สิ้ก | บาท | |
เสี้ยว เซี่ยว หรือ ไพ | บาท | |
อัฐ | บาท | |
โสฬส หรือ โสฬศ | บาท | |
เบี้ย | บาท |
ในปัจจุบัน มีการผลิตเหรียญกษาปณ์อยู่ทั้งหมด 9 ชนิดคือ เหรียญ 1, 5, 10, 25 และ 50 สตางค์, 1, 2, 5 และ 10 บาท โดยเหรียญ 25 และ 50 สตางค์, 1, 2, 5 และ 10 บาท เป็นเหรียญที่ออกใช้หมุนเวียนทั่วไป ส่วนเหรียญ 1, 5 และ 10 สตางค์ ไม่ได้ออกใช้หมุนเวียนทั่วไป แต่ใช้ภายในธนาคารเท่านั้น
แต่ในปัจจุบัน ได้เกิดปัญหาราคาวัตถุดิบในการผลิตเหรียญสูงกว่าราคาเหรียญ ทำให้เกิดการลักลอบหลอมเหรียญไปขาย หรือบางครั้งก็เกิดปัญหาการใช้เหรียญผิด เพราะรูปร่างและสีของเหรียญบางชนิดนั้นคล้ายกัน (เช่น เหรียญ 1 บาท กับ เหรียญ 2 บาท แบบเก่า) ดังนั้น ใน พ.ศ. 2552 กระทรวงการคลัง ได้เปลี่ยนแปลงวัตถุดิบในการผลิตเหรียญบางชนิด เพื่อป้องกันการหลอมเหรียญและสร้างความแตกต่างของเหรียญ ลดความยุ่งยากในการใช้เหรียญ เป็นดังนี้
เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน (พ.ศ. 2552) [1] | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ภาพ | มูลค่า | ข้อมูล | ภาพ | ปีที่ประกาศใช้ | ||||
ด้านหน้า | ด้านหลัง | เส้นผ่านศูนย์กลาง | น้ำหนัก | ส่วนประกอบ | ด้านหน้า | ด้านหลัง | ||
1 สตางค์ | 15 มม. | 0.5 กรัม | อะลูมิเนียม ร้อยละ 99 | พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | พระเจดีย์วัดพระธาตุหริภุญชัย | พ.ศ. 2530 | ||
5 สตางค์ | 16.5 มม. | 0.6 กรัม | พระปฐมเจดีย์ | พ.ศ. 2530 | ||||
10 สตางค์ | 17.5 มม. | 0.8 กรัม | พระเจดีย์วัดพระธาตุเชิงชุม | พ.ศ. 2530 | ||||
25 สตางค์ | 16 มม. | 1.9 กรัม | เหล็กกล้าชุบทองแดง | พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร | พ.ศ. 2530 | |||
50 สตางค์ | 18 มม. | 2.4 กรัม | พระเจดีย์วัดพระธาตุดอยสุเทพ | พ.ศ. 2530 | ||||
1 บาท | 20 มม. | 3 กรัม | เหล็กกล้าชุบนิเกิล | พระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม | พ.ศ. 2529 | |||
2 บาท | 21.75 มม. | 4 กรัม | อะลูมิเนียมบรอนซ์ | พระบรมบรรพต วัดสระเกศ | พ.ศ. 2548 | |||
5 บาท | 24 มม. | 6 กรัม | คิวโปรนิกเกิลสอดไส้ทองแดง | พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร | พ.ศ. 2531 | |||
10 บาท | 26 มม. | 8.5 กรัม | วงแหวน: คิวโปรนิกเกิล ตรงกลาง: อะลูมิเนียมบรอนซ์ | พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม | พ.ศ. 2531 |
ธนบัตรที่ใช้ในประเทศไทยในปัจจุบันมีหลายชนิด แต่หลายชนิดเป็นธนบัตรที่ระลึกที่มีจำนวนจำกัด และไม่ถูกใช้ในการหมุนเวียนทั่วไป เช่น ธนบัตรที่ระลึกมูลค่า 60 บาท เป็นต้น ส่วนธนบัตรที่ถูกใช้หมุนเวียนทั่วไป และยังมีการผลิตอยู่อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน มี 5 ชนิด ได้แก่ ธนบัตร 20, 50, 100, 500 และ 1000 บาท
ธนบัตรที่หมุนเวียนใช้ในระบบเศรษฐกิจ [2] | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ภาพ | มูลค่า | ขนาด | สี | ด้านหน้า | ด้านหลัง | วันที่ออกใช้ | |
20 บาท | 138 × 72 มม. | เขียว | พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร | 3 มีนาคม 2546 | ||
50 บาท | 144 × 72 มม. | น้ำเงิน | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | 1 ตุลาคม 2547 | |||
100 บาท | 150 × 72 มม. | แดง | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | 21 ตุลาคม 2548 | |||
500 บาท | 156 × 72 มม. | ม่วง | พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว | 1 สิงหาคม 2544 | |||
1000 บาท | 162 × 72 มม. | เทา | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | 25 พฤศจิกายน 2548 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น